วิธีรักษาภูมิแพ้โดยไม่ใช้ยา

#วิธีรักษาภูมิแพ้โดยไม่ใช้ยา

#HealthCenter
https://www.youtube.com/channel/UCBrcRt7scwPT3khbRoLHoiA?sub_confirmation=1

สารก่อภูมิแพ้

จากการสำรวจผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ในไทย พบว่าส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากแพ้ไรฝุ่นหรือฝุ่นในบ้านเป็นอันดับแรก รองลงมาคือแมลงสาบ ละอองเกสรพืช และขนสัตว์ นอกจากนี้อาการของโรคภูมิแพ้ยังสามารถรุนแรงยิ่งขึ้น หากผู้ป่วยได้รับการกระตุ้นจากกลิ่น เช่น ควันบุหรี่ หรือกลิ่นเหม็นฉุนต่างๆ ดังนั้น เพื่อให้รู้แน่ชัดว่าแพ้อะไรกันแน่ ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ควรเข้ารับการทดสอบสารก่อภูมิแพ้กับผิวหนัง เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารดังกล่าว และยังสามารถใช้เป็นแนวทางในการพิจารณารักษาด้วยการฉีดวัคซีนได้ด้วย แต่หากไม่ได้รับการทดสอบ ก็ควรพยายามเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้

การเกิดโรคภูมิแพ้

อาการของภูมิแพ้เริ่มต้นจากการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เมื่อสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม เช่น การสูดดม การสัมผัสกับผิวหนัง หรือการรับประทาน ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะตอบสนองสารก่อภูมิแพ้เหล่านั้นด้วยการหลั่งสารก่อการอักเสบต่างๆ ซึ่งจะกระตุ้นให้เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันผลิตแอนติบอดี (Antibody) ที่เรียกว่า อิมมูโนโกลบูลิน อี (IgE) ขึ้นมาต่อสารก่อภูมิแพ้นั้น ๆ เมื่อภายในร่างกายมีแอนติบอดีแล้ว ก็จะทำให้ร่างกายตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ชนิดนั้นเพิ่มมากขึ้นและไวขึ้น
หลังจากนั้น ในครั้งต่อไปที่ร่างกายได้รับหรือมีการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ดังกล่าวอีกครั้ง ระบบภูมิคุ้มกันและแอนติบอดีก็จะตอบสนอง และกระตุ้นเซลล์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่าแมสต์เซลล์ (Mast cell) ให้หลั่งสารชื่อว่าฮีสตามีน (Histamine) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของอาการที่ไม่พึงประสงค์ของโรคภูมิแพ้ออกมา ส่งผลให้เกิดอาการระคายเคืองต่ออวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เช่น ผิวหนัง จมูก คอ และปอดตามมา

............................................................................................
ปรึกษาปัญหาสุขภาพเพิ่มเติมและสั่งซื้อผลิตภัณฑ์งานวิจัยได้ที่: