การ รักษา มะเร็ง ปาก มดลูก ไม่ผ่าตัด

#การรักษามะเร็งปากมดลูกระยะที่3 #ไม่ตัดมดลูก #วิธีภูมิบำบัด

#HealthCenter
#https://www.youtube.com/channel/UCBrcRt7scwPT3khbRoLHoiA

#การรักษามะเร็งปากมดลูก ด้วยวิธีสร้างภูมิบำบัด

โรคมะเร็งปากมดลูกถือเป็นโรคร้ายใกล้ตัวของผู้หญิง และกว่าจะรู้ตัวก็เข้าสู่ระยะอันตรายแล้ว เราจึงควรรู้ถึงสาเหตุและวิธีป้องกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก

ในปัจจุบันพบว่าสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ชื่อว่า ไวรัส HPV (Human Papiloma Virus) โดยเฉพาะสายพันธุ์ 16 และ 18 เมื่อมีเพศสัมพันธ์เชื้อไวรัส HPV จะเข้าไปสู่ปากมดลูกผ่านรอยถลอกของเยื่อบุผิวภายในช่องคลอด หลังจากนั้นเชื้อจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของปากมดลูก ที่เรียกว่า ระยะก่อนมะเร็ง และกลายเป็นมะเร็งในที่สุด ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับศักยภาพในการก่อมะเร็งของไวรัสแต่ละชนิดรวมทั้งภูมิต้านทานของผู้ป่วยแต่ละคนด้วย

หากเมื่อรู้ตัวว่ากำลังเผชิญกับโรคมะเร็งปากมดลูก คำถามแรกก็เกิดขึ้น คือ จะมีวิธีรักษา และดูแลตัวเองอย่างไร จึงขออธิบาย ดังนี้

การวินิจฉัยโรคมะเร็งปากมดลูก แพทย์จะทำการแบ่งระยะของโรค ออกเป็นระยะที่ 1 ถึงระยะที่ 4 จากการตรวจร่างกาย การตรวจภายใน การตรวจทางทวารหนัก ส่องกล้องทางกระเพาะปัสสาวะ ส่องกล้องทางทวารหนัก รวมทั้งเอกซเรย์ปอดเพิ่มเติม เมื่อแบ่งระยะของโรคได้แล้ว แพทย์จะทำการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

โรคมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 1 มีการรักษาที่เป็นมาตรฐานอยู่ 2 วิธี ได้แก่ การผ่าตัด และการใช้รังสีรักษา วิธีแรก คือ การผ่าตัด แพทย์จะทำการผ่าตัดมดลูกรวมทั้งเลาะต่อมน้ำเหลืองบริเวณอุ้งเชิงกรานทั้งสองข้าง ส่วนวิธีที่สอง คือ การใช้รังสีรักษา ซึ่งประกอบด้วยการฉายแสง การฝังแร่ และใช้เคมีบำบัด วิธีนี้ไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดแต่ได้ผลใกล้เคียงกับการรักษาโดยการผ่าตัด

ระยะที่ 2, 3 และ 4 มีการรักษามาตรฐาน คือ การใช้รังสีรักษาร่วมกับเคมีบำบัด ซึ่งแพทย์จะพิจารณาจากความแข็งแรง อายุ และโรคประจำตัวผู้ป่วยตามความเหมาะสม

ในการรักษาจะมีผลข้างเคียงเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ขึ้นอยู่กับวิธีต่าง ๆ ที่ผู้ป่วยได้รับการรักษา อย่างเช่น ผลข้างเคียงจากการผ่าตัด จะมีการตกเลือด ติดเชื้อ มีการบาดเจ็บจากบริเวณอวัยวะรอบข้าง รวมทั้งไม่สามารถมีบุตรได้อีกและหมดประจำเดือนจนเข้าสู่วัยทอง สำหรับผลข้างเคียงจากการใช้รังสีรักษา ส่วนใหญ่มักจะเป็นบริเวณผิวหนังที่โดนฉายแสง รวมทั้งอวัยวะรอบข้างที่โดนรังสีด้วย ส่วนผลข้างเคียงจากเคมีบำบัด ก็จะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย มือเท้าชา และผมร่วง รวมทั้งเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดจะต่ำ มักเกิดขึ้นในผู้ป่วยในแต่ละรายแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสูตรของเคมีบำบัดที่ใช้ ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้มีความแตกต่างกันแต่ละวิธีของการรักษา ยิ่งได้รับการรักษาหลายวิธีก็จะมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นมากได้เช่นกัน

แต่ก็มีผู้ป่วยมะเร็ง ในจำนวนไม่น้อยได้ตระหนักถึงผลข้างเคียงของกระบวนการรักษาข้างต้น จึงได้หันมาศึกษากระบวนการรักษาแบบแพทย์ทางเลือก แนวทางการสร้างภูมิคุ้มกันบำบัด ที่ให้ผลลัพธ์ไม่ต่างจากการทำเคมีบำบัด ฉายรังสี คีโม และเป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่ต้องกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกายหลังการรักษา

แนวทางการรักษาแบบภูมิคุ้มกันบำบัดนี้ โรคมะเร็งปากมดลูกสามารถรักษาให้หายได้ ผู้ป่วยควรทำร่างกายให้แข็งแรง ทำจิตใจให้เข้มแข็งไม่เครียด กำลังใจจากคนรอบข้างก็เป็นสิ่งสำคัญ เมื่อผู้ป่วยกำลังใจดีแล้วผลการรักษาก็มักจะดีตามไปด้วย ที่สำคัญ คือการปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ รวมทั้งการมาตรวจติดตามอาการและการรักษาอย่างต่อเนื่อง

....................................................................................................
ปรึกษาปัญหาสุขภาพเพิ่มเติมและสั่งซื้อผลิตภัณฑ์งานวิจัยได้ที่:
☎ 089-986-1792